งานเขึยน
หน้างสือ ว่าน สมุนไพร ไม้มงคลไทย
บ้านว่านไทย

ว่าน กระแตไต่ไม้

ชื่อว่าน:  ว่านกระแตไต่ไม้

ชื่อวิทยาศาสตร์ของว่าน:  Drynaria  quercifolia(L.) J. Sm

วงศ์ของว่าน:  POLYPODIACEAE

ชื่ออื่นๆ: 

 

ลักษณะลำต้น/ราก:  ลำต้นเป็นเหง้าอวบอ้วนและสั้น ไม่มีข้อปล้อง ปีนเกาะกับสิ่งที่ยึดเกาะ เหง้ามีขนหรือเกล็ดเป็นเส้นสีน้ำตาลแดงปกคลุมทั่ว และมีรากอยู่หนาแน่นด้านล่างเหง้า

ใบ:  ใบมี 2 แบบ คือ ใบกาบหรือใบตะกร้า (base frond หรือ nest-leaves ) เป็นกาบบาง ไม่หนา รูปไข่หรือรูปโล่ห์กลม ไม่มีก้าน ขอบเป็นหยักพูตื้น ทำหน้าที่เก็บสะสมเศษซากอินทรีย์วัตถุ ใบแก่จะไม่หลุดทิ้งจากต้น จะอยู่ติดไปตลอดจนเปื่อยผุงพัง ใบอีกชนิด ใบจริง หรือใบที่สร้างสปรอ์ (foliage-leaves หรือ fertile frond) มีก้านยาว ขอบใบหยักเป็นพูลึก โคนใบย่อยติดกัน ดูคล้ายใบประกอบขนนก หรือเป็นใบประกอบแบบขนนก อับสปอร์มีขนาดเล็ก เรียงเป็นแถวเดี่ยว หรือ 2 แถว ขนานไปตามแนวเส้นกลางใบ

ดอก:

 

สภาวะการปลูก:  ปลูกแบบกล้วยไม้

การขยายพันธุ์:  แยกหน่อจากต้นเดิม

 

การใช้ประโยชน์:

ยาพื้นบ้านอีสานใช้  เหง้า  3-4  เหง้าผสมกับลำต้นเอื้องเงิน  1  ต้น  ต้มน้ำดื่ม  ครั้งละ  1 ถ้วยชา  วันละ  2-3  ครั้ง  บำรุงเลือดตำรายาไทยใช้  เหง้า  เป็นยาสมานคุมธาตุ  ขับปัสสาวะ  ขับพยาธิ  แก้ปัสสาวะพิการ  (อากรปัสสาวะปวด  หรือกะปริบกะปรอยหรือขุ่นข้น  สีเหลืองเข้ม  หรือมีเลือด) ไตพิการ  (โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ  มีปัสสาวะขุ่นข้น  เหลือง  หรือแดง  มักมีอาการแน่นท้อง  กินอาหารไม่ได้) ในมาเลเซียใช้เป็นสมุนไพรบดพอกแก้บวม

 

ความเชื่อ:  บางท่านว่าว่านต้นนี้ เป็นว่านทางด้านเมตตามหานิยม มีผลดีทางด้านซื้อง่ายขายคล่อง โดยจะมีว่านอีกชนิดหนึ่งลักษณะคล้ายกัน แต่ไม่มีใบกาบ ที่ลำต้นพอเริ่มแก่ขนหลุดออกหมดทำให้ดูคล้ายงู เรียกว่า ว่านงูกวัก

วงศ์ของว่าน :