งานเขึยน
หน้างสือ ว่าน สมุนไพร ไม้มงคลไทย
บ้านว่านไทย

บทความที่ 4 การหุงน้ำมันว่าน

การหุงน้ำมันว่าน    (คลิ๊ก continue reading ข้างล่าง เพื่ออ่านต่อ)

ธรรมเนียมการหุงน้ำมันว่านนั้น ปรากฏในสังคมไทยมาช้านานทั้งพิธีราษฎร์ และพิธีหลวง อาจารย์ภาวาส บุนนาค (พระอาจารย์ในสมเด็จพระเทพฯ) ได้กล่าวว่า “ในหอศาตราคม อันตั้งอยู่ในกำแพงแก้ว พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ตรงมุมทิศตะวันออก หอศาสตราคมนี้มีสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นที่พระสงฆ์รามัญเข้าไปเจริญพระปริตรทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับสมเด็จพระมหากษัตริย์สรงพระพักตร์กับประพรมทั่วพระบรมมหาราชวัง อีกห้องหนึ่งปรกติจะปิดอยู่ตลอดเวลา ใช้เป็นที่เก็บใบบอกเรื่องการทัพศึกจากกองทัพ แผนที่แสดงภูมิประเทศในการเดินทัพ และเครื่องรางของขลังที่พระราชทานทหารที่ออกทำศึก เช่น ตะกรุด พิสมรประคำ และน้ำมันว่านยา เครื่องอย่างอื่นละไว้ จะกล่าวแต่น้ำมันว่านบรรจุไหขนาดย่อม ผนึกปากแน่น วางเรียงอยู่เกือบจะเต็มพื้นห้อง ผู้ที่มีโอกาสได้ชมหอศาสตราคมถึงภายในคงระลึกได้อย่างที่ข้าพเจ้ากล่าวมา ตัวข้าพเจ้าเอง เมื่อได้เข้าไปเห็นนั้นได้ทราบเพียงว่าไหที่วางเรียงกันอยู่นั้นเป็นไหน้ำมันมนต์สำหรับแต่งทหารเมื่อจะออกศึก แต่ไม่ทราบเลยว่ามีมาแต่ครั้งไหน ท่านผู้ใดทำขึ้น มาได้อ่านสมุดเก่าเล่มนี้เข้าจึงได้ทราบว่าเป็นน้ำมันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดให้ตั้งการพระราชพิธีหุงขึ้นเมื่อในรัชกาลที่ 3 เพราความตอนที่ว่าด้วยเรื่องการหุงน้ำมันขึ้นต้นด้วยจดหมายเหตุว่า ศุภมัสดุศักราช 1189 ปีกุญนพศก สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯสั่งให้พระพงศ์นรินทร์ ราชนิกูล จัดแจงว่านยาหุงน้ำมันสำหรับการสัประยุทธ จะได้พระราชทานทแกล้วทหารกระทำการสงครามปราบปรามศัตรูตามรายประเพณีสืบ ๆ กันมา  เรื่องพระราชพิธีเรื่องหุงน้ำมันตามที่บันทึกในสมุดหมดเพียงที่เล่ามานี้ แต่ข้าพเจ้าใคร่จะกล่าวความเพิ่มเติมเป็นการลงท้ายหน่อยว่า ในปี พ.ศ. 2370 ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพิธีหุงน้ำมันนั้น ทำสำเร็จได้ไม่นานไทยก็ทำสงครามกับญวน และในปีต่อ ๆ มา ก็เกิดศึกญวนอีกถึง 3 ครั้ง บรรพชนผู้กล้าหาญของเราคงจะได้อาศัยน้ำมันวิเศษนี้เป็นเครื่องบำรุงขวัญทุกครั้ง และได้เหลือเครื่องบำรุงขวัญสำคัญนั้นไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานได้เห็นกันจนทุกวันนี้”

ในปี 2558  บ้านว่านไทย และคณะศิษย์ ได้สืบสานพิธีการทำน้ำมันว่านแต่โบราณ ได้รวบรวมว่านกว่าสี่ร้อยชนิด และได้อัญเชิญน้ำมันว่านอันศักดิ์สิทธิ์ของครูบาอาจารย์แต่โบราณที่เก็บไว้ ลงผสม เป็นเชื้อ เป็นชนวนในครั้งนี้ด้วย อันมีรายชื่อดังต่อไปนี้เป็นอาทิ

 

1.น้ำมันงาเสกของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่..ที่แช่เสกเหรียญหลวงปู่แก้ว

2.น้ำมันงาเสก ครูนิยม อมศิริ ศิษย์พ่อหนูโตมร บุนนาค

3.น้ำมันงาประสะพลับพลึง ครูสงวน โสฬสวังหน้า

4.น้ำมันมะพร้าว เสก หลวงพ่อจำปา วัดบางไผ่ นนทบุรี

5.น้ำมันไพล อ.เปีย วัดบำเพ็ญใต้ สาย อ.ฟ้อน ดีสว่าง

6.น้ำมันมนต์หลวงปู่ครูบาสุรินทร์ วัดหลวงศรีเตี้ย จ.ลำพูน

7.น้ำมันงาเสกแข็ง สายเขาอ้อ

8.น้ำมันว่าน อ. หล่อ ขันแก้ว

9.น้ำมันว่าน 108 อ. มา เครื่องทองดี

10.น้ำมันว่าน อ. ส เปลี่ยนศรี

11.น้ำมันว่าน อ.เชษฐา พยากรณ์

12.น้ำมันว่าน ป้าบุญช่วย ใจจันทึก

13. น้ำมันว่าน สมุนไพร คุณลุงเกษม ราชบุรี

14.น้ำมันว่าน คุณนพคุณ คุมา

15.น้ำมันชาตรี ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระน๊อต วัดท่าเสา มอบมาร่วมงานโดยสืบต่อมาจาก หลวงพ่อนวล วัดโพธิ์บางระมาด

16. ยาจินดามณี สร้างโดย หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา กระทุ่มแบน สายตรงวัดกลางบางแก้ว (มอบโดย พระน๊อต วัดท่าเสา)

17. ยาเม็ดทอง หลวงตาอ๋อย (ฤาษีย่ามแดง) จ.สมุทรสงคราม

18. น้ำมัน ว่านไก่แดง สุดยอดเมตตามหานิยม

และน้ำมันว่าน จากพระเดชพระคุณ  และแม่ชี  และศิษย์ ที่ตั้งใจทำน้ำมัน มาให้ตลอด30 กว่าปีที่ผ่านมาทำเป็นหัวเชื้อ ในการหุงน้ำมันว่านในครั้งนี้ด้วยจึงนับเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของการหุงน้ำมันว่านในเมืองไทย ที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด

พิธี หุงน้ำมันว่าน ตำรับเก่า บ้านณรงค์ศักดิ์ พอสังเขบ

สิ่งที่เตรียม ก่อนวันงาน

นำว่านมา 108  ลงสูตร เรียกนาม ตามบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ

นำว่านอื่นๆ ที่มีคุณ นำมาผสมกับว่าน108 หั่นชิ้นเล็กรวมกัน

เตรียมเชื้อเพลงมงคล อาทิ ชัยพฤกษ์ มะริด กันเกรา กันภัย

เตรียม วัตถุอาถรรพ์ สำหรับปรุงรวม เพื่อไม่ให้เสื่อมความขลัง

วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่นกระทะ ไม้พาย หม้อ เตา เป็นต้น

น้ำมัน ที่ใช้น้ำมันงา และน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นบริสุทธิ์(ปกติใช้กะทิ)

เครื่องบวงสรวงสังเวย

มณฑลพิธี

๑. ผ้าขาวสำหรับคาดเพดานพิธีมณฑล

๒. ไม้รักสำหรับปักเป็นเสา 4 อัน (สี่ทิศ)

๓. สายสิญจน์พอที่จะวงได้ 7 รอบมณฑลพิธีนั้น

๔. ยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้าสำหรับคาดเพดาน

๕. ผ้ายันต์ตรีนิสิงเห สำหรับติด 8 ผืน (แปดทิศ)

 

ด้านหลังเป็นยันต์อิติปิโส ประจำทิศ แต่ละทิศ คือยันต์ประจำทิศใดก็ให้ติดยันต์นั้นตามทิศทั้งแปดแต่ละทิศ คือ

 

1. ทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) ให้ติดกระทู้ 7 แบก (อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา)

2. ทิศอาคเณย์ (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) ให้ติดฝนแสนห่า (ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง)

3. ทิศทักษิณ (ทิศใต้)  ให้ติดนารายณ์เกลื่อนสมุทร (ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท)

4. ทิศหรดี (ทิศตะวันตกเฉียงใต้) ให้ติดนารายณ์ถอดจักร์ (โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ)

5. ประจิม (ทิศตะวันตก) ให้ติดนารายณ์ขว้างจักร์ตรึงไตรภพ (ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ)

6. ทิศพายัพ (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) ให้ติดนารายณ์พลิกแผ่นดิน (คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ)

7. ทิศอุดร (ทิศเหนือ) ให้ติดตวาดฟ้าป่าหิมพานต์วา  (โธ โน อะ มะ มะ วา)

8. ทิศอีสาน (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) ให้ติดนารายณ์แปลงรูป (อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ )

 

ในวันงาน

เริ่มจากพิธีสงฆ์ เลี้ยงพระ9 รูป จากห้าประเทศ (จำไม่ได้ว่าอะไรบ้าง) เพื่อรับพร และอุทิศส่วนกุศล ให้ครูบาอาจารย์ และตัวเองเพื่อเป็นศิริมงคล

เข้าพิธี

พิธีกร อ่านโองการ บูชาพระรัตนตรัย และชุมนุมเทวดา ครูบาอาจารย์ จากนั้นแต่งตั้ง ศิษย์ที่บวชเรียนแล้ว 3 คน บรรจุคาถา ตลอดเวลาที่หุง หลายชั่วโมง

คาถาที่ใช้บรรจุอาทิ

คาถาบารมีพระพุทธเจ้า

พระคาถาหัวใจพระยาสมาส

พระคาถา นวหรคุณ

พระคาถาพุทธนิมิตร์

คาถาพรหมสี่หน้า

คาถาบารมี30ทัศน์

คาถามงกุฏพระพุทธเจ้า

คาถาอรหันต์8ทิศ

พระคาถามหาโสฬสมงคล

คาถาหัวใจพระธรรมเจ็ดคําภีร์

คาถาพรหมสี่หน้า

คาถาพุทธนิมิต

คาถาพระเจ้า16พระองค์

คาถาหัวใจท้าวเวสสุวรรณฉบับล้านนา

และคาถาหัวใจร้อยแปด อีก เป็นต้น

มีหลายคน สอบถามเข้ามาเรื่องน้ำมันว่าน เอาไว้ทำอะไร ยันต์ เอาไว้ทำอะไร วันนี้มาตอบ เรื่องน้ำมันว่านก่อน น้ำมันว่าน เป็น หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของไทยที่มีมาแต่โบราณ ถ้าเทียบเคียงให้ ใกล้เคียง ก็คงคล้ายน้ำพระพุทธมนต์ อันมีคุณ มากมายหลายด้าน แต่น้ำมันว่าน เห็นจะเป็นรูปธรรมมากกว่า เพราะ อุดมไปด้วย น้ำมัน และ ว่านยาสมุนไพรต่างๆ ที่ใช้ในการรักษา โรคภายในภายนอก ได้ ทั้งแผลสดแผลเปื่อยแผลเรื้อรัง ต่างๆ ทางด้านความเชื่อ ก็ ได้ บรรจุ น้ำมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่โบราณ ทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์ในเกือบทุกด้าน ใช้แตะแต้ม ร่างกาย เป็น เสน่ห์เมตตามหานิยม เป็น คงกระพันชาตรี เป็น สิ่งปกป้องผองภัย ใช้แตะแต้มอาวุธ แตะแต้ม วัตถุมงคล เจิมสถานที่ ที่มีปัญหา ให้เกิดความมงคลความสุขความเจริญ ความสงบร่มเย็น เป็นต้น ภาคขยายความเพื่อความชัดเจนสำหรับผู้สนใจ พกติดตัวบูชาเป็นประจำ หรือสักลงบนร่างกาย ย่อมอยู่ยงคงกระพันแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งมวล แตะแต้ม หรือสีปาก เป็น นะ จังงัง นะ มหาอำนาจ พูดอะไรที่อยู่ในศีลธรรมอันดีแล้ว ย่อมเป็นที่เชื่อถือ และคล้อยตาม มีน้ำหนัก หนักแน่น แตะแต้ม หรือ ทาอาวุธ หอกดาบ เพื่อความคง ขลัง มีชัยแก่ศัตรู แตะแต้มหน้าต่างประตู กันภูติพราย แตะแต้ม หรือสีปาก เป็น นะ เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ ทั้งด้านการค้าการขาย และด้านชู้สาว ทาแผล หรือ ทาผิว ย่อมมีฤทธิ์ การรักษา สารพัดโรค ผิวพรรณงาม ไม่แก่เฒ่า ที่เหี่ยวก็ จะสดชื่นเต่งตึงนุ่มนวลขึ้น ทาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แมลงกัดต่อย ดิ่มกินเข้าไป ย่อมรักษาโรคภัยไข้เจ็บนานาประการ ที่ยากแก่การรักษา หมายเหตุ : การจะทาในที่ๆ ไม่เหมาะสม ควรอาราธนา และขออนุญาติ เทวดารักษาน้ำมันว่านก่อน เช่น ที่เท้า ที่องค์กำเนิด เป็นต้น หากมีข้อสงสัยใด โทรถามได้ ที่ ณรงค์ศักดิ์ 064 146 9546 • หมายเหตุ *น้ำมันว่านโบราณในพิธีไหว้ครู58 เป็น หัวเชื้อในการผลิตน้ำมันว่านร้อยแปดต่อมา

 

ในปี 2562 ในวันที่ 31 มีนาคม บ้านว่านไทยได้จัดให้มีการไหว้ครูประจำปี จึงได้มีการต่อเชื้อน้ำมันว่านโบราณจากครั้งก่อน โดยในครั้งนี้ ได้ใช้ว่านใหม่กว่าสองร้อยชนิด หุงน้ำมันว่าน และใช้น้ำมันว่านโบราณต่างๆบรรจุลงไป จึงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เป็นการทำน้ำมันว่าน ที่สมบูรณ์ครบถ้วนที่สุดอีกครั้งหนึ่ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>

Spam Protection by WP-SpamFree

วงศ์ของว่าน :